หุ้นทอง
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นร่างประกาศการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดประเภท และการให้คำแนะนำแก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นร่างประกาศการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดประเภท และการให้คำแนะนำแก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ ให้สอดคล้องกันสำหรับการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (สัญญาฯ) รวมทั้งการให้บริการผลิตภัณฑ์ในประเทศและต่างประเทศ

ตามที่ ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา เกี่ยวกับหลักการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดประเภท และการให้คำแนะนำสำหรับผู้ลงทุนสถาบัน (Institutional Investors: II) และผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยปรับปรุงนิยาม II ให้เป็นนิติบุคคลเท่านั้น และสอดคล้องกันในการให้บริการแต่ละประเภทเพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถให้บริการและปฏิบัติต่อผู้ลงทุนแต่ละประเภทได้เหมาะสม และไม่เป็นภาระในการให้บริการด้วยนิยามผู้ลงทุนที่แตกต่างกัน ซึ่งผู้แสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยกับหลักการในภาพรวมโดยมีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ โดย ก.ล.ต. ได้นำมาปรับปรุงหลักการให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น และคณะกรรมการกำกับตลาดทุนได้มีมติเห็นชอบการทบทวนหลักการดังกล่าวแล้วนั้น

ก.ล.ต. จึงยกร่างประกาศและภาคผนวกแนบท้ายประกาศที่เกี่ยวข้องข้างต้น และเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบธุรกิจและบุคคลทั่วไป โดยสรุปหลักการสำคัญของการปรับปรุงหลักเกณฑ์ ดังนี้

การให้บริการลูกค้าของผู้ประกอบธุรกิจในภาพรวม

(1) ปรับปรุงนิยาม II สำหรับการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ให้หมายถึงนิติบุคคลที่มีลักษณะตามที่กำหนดเนื่องจากเป็นผู้ลงทุนที่สามารถดูแลตัวเองได้อย่างแท้จริง และปรับปรุงนิยาม II ของหลักเกณฑ์ในรายละเอียดเกี่ยวกับการติดต่อและการให้บริการลูกค้าสำหรับผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจสัญญาฯ* ให้สอดคล้องกัน

(2) กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจจัดประเภทกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund: PF) เป็น II โดยไม่ต้องพิจารณาถึงระดับผู้ลงทุนที่ใช้บริการ (look through) เพื่อให้ไม่เป็นภาระต่อผู้ประกอบธุรกิจเกินควร เนื่องจากตามหลักเกณฑ์ปัจจุบัน PF ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจต้องมีการจัดประเภทผู้ลงทุนเพื่อให้คำแนะนำและให้บริการจัดการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับฐานะ ความสามารถในการรับความเสี่ยงของผู้ลงทุน และถูกต้องตามหลักเกณฑ์อยู่แล้ว

การให้บริการพาลูกค้าไปลงทุนในผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ

(1) ปรับปรุงนิยาม II ให้สอดคล้องกับการให้บริการลูกค้าของผู้ประกอบธุรกิจในภาพรวม

(2) ปรับปรุงนิยาม “ผู้ลงทุนรายใหญ่” สำหรับการให้บริการลงทุนในต่างประเทศให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจในเรื่องอื่นด้วย โดยให้หมายถึงผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ (Ultra High Net Worth: UHNW) ซึ่งมีเงินลงทุนรวมเงินฝาก 30 ล้านบาทขึ้นไปสำหรับบุคคลธรรมดา และ 60 ล้านบาทขึ้นไปสำหรับนิติบุคคล โดยมีความรู้หรือประสบการณ์ตามที่กำหนด จากเดิมที่กำหนดตามนิยาม Qualified Investor (QI) ของธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งยกเลิกแล้ว โดยเมื่อหลักเกณฑ์ใหม่มีผลใช้บังคับ ให้ถือว่าผู้ลงทุนที่ได้รับการจัดประเภทเป็น QI ตามหลักเกณฑ์ปัจจุบันเป็น UHNW ตามหลักเกณฑ์ใหม่โดยอัตโนมัติ

(3) ปรับปรุงหลักเกณฑ์กรณีให้บริการผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศที่มีการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์หรือศูนย์ซื้อขายสัญญาฯ (รวมเรียกว่า ศูนย์ซื้อขาย) โดยศูนย์ซื้อขายดังกล่าวต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานกำกับดูแลที่เป็นสมาชิกของ IOSCO ซึ่งเป็นพหุภาคีประเภท Signatory A ใน Multilateral Memorandum of Understanding Concerning Consultation and Cooperation and the Exchange of Information (MMOU) (IOSCO MMOU) หรือเป็นศูนย์ซื้อขายที่เป็นสมาชิกของ World Federation of Exchanges (WFE) แทนหลักการเดิมที่กำหนดให้ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายที่เป็นสมาชิกของ WFE เท่านั้น เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจมีความยืดหยุ่นในการให้บริการ และไม่จำกัดโอกาสในการลงทุนของผู้ลงทุนจนเกินควร ภายใต้ระดับการคุ้มครองที่เหมาะสม

ทั้งนี้ เมื่อหลักเกณฑ์ใหม่มีผลใช้บังคับ ให้ผู้ประกอบธุรกิจจัดประเภท II ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ใหม่เมื่อถึงรอบการทบทวนการทำความรู้จักลูกค้า (KYC) ครั้งถัดไปของผู้ลงทุน หรือเมื่อผู้ลงทุนประสงค์จะซื้อหลักทรัพย์หรือสัญญาฯ เพิ่มเติม นอกจากนี้ กำหนดให้ประกาศมีผลใช้บังคับ 3 เดือนนับจากวันที่ประกาศลงนาม เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจมีระยะเวลาในการเตรียมความพร้อมระบบงานรองรับการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ปรับปรุงอย่างเพียงพอ

ก.ล.ต.ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นหลักการร่างประกาศเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=1049 และระบบกลางทางกฎหมาย https://law.go.th/listeningDetail?survey_id=NDc2MURHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ= ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail: sukritta@sec.or.th หรือ hathaiphat@sec.or.th จนถึงวันที่ 3 มกราคม 2568

หมายเหตุ:

* ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สธ. 35/2557 เรื่อง หลักเกณฑ์ในรายละเอียดเกี่ยวกับการติดต่อและให้บริการลูกค้าสำหรับผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 ธ.ค. 2567 เวลา : 13:49:24
23-12-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: 24 ธ.ค. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำบางพลี

2. ตลาดหุ้นปิด (20 ธ.ค.67) ลบ 12.46 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,365.07 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (20 ธ.ค.67) ลบ 13.48 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.05 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,580 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,615 เหรียญ

5. ทั่วไทยอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย "ยอดดอย" หนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5 องศา มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง "ยอดภู" 6 องศา

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (19 ธ.ค.67) บวก 15.37 จุด ตลาดจับตาดัชนี PCE สหรัฐวันนี้

7. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (19 ธ.ค.67) ร่วง 45.20 เหรียญ หลังเฟดส่งสัญญาณชะลอลดดอกเบี้ย

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (20 ธ.ค.67) ลบ 0.50 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,375.83 จุด

9. ทองเปิดตลาดวันนี้ (20 ธ.ค. 67) ปรับลดลง 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 43,150 บาท

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-34.75 บาท/ดอลลาร์

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (20 ธ.ค.67) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 34.59 บาทต่อดอลลาร์

12. ตลาดหุ้นปิด (19 ธ.ค.67) ลบ 21.42 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,377.53 จุด

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 ธ.ค.67) ลบ 6.55 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,392.40 จุด

14. MTS Gold คาดว่าวันนี้ราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,590 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,640 เหรียญ

15. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (19 ธ.ค.67) อ่อนค่าลงหนัก ที่ระดับ 34.58 บาทต่อดอลลาร์

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 23, 2024, 9:32 am