เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ "เงินบาทอ่อนค่า ขณะที่หุ้นไทยร่วงหลุดแนว 1,400 จุด"


สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท


· เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 34.68 บาทต่อดอลลาร์ฯ รับสัญญาณชะลอแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด

เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ตามทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชียและการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก แต่ฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วน หลังการประชุม กนง. ซึ่งมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 2.25% ตามเดิม


 
อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้ง สวนทางกับเงินดอลลาร์ฯ ที่ปรับตัวแข็งค่าและบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้น หลังการประชุมเฟดซึ่งแม้จะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาที่กรอบ 4.25-4.50% แต่ก็ส่งสัญญาณในเชิง Hawkish ผ่าน Dot plot และประมาณการเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในปีหน้า ซึ่งสะท้อนว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะชะลอจังหวะการปรับลดดอกเบี้ยในปี 2568 นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2567 ของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดด้วยเช่นกัน เงินบาทแข็งค่ากลับมาได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ แรงหนุนเงินดอลลาร์ฯ ชะลอลงก่อนการประกาศตัวเลขดัชนีราคา PCE/Core PCE ประกอบกับตลาดยังคงรอติดตามความเสี่ยงจากภาวะ Government Shutdown ของสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน

· ในวันศุกร์ที่ 20 ธ.ค. 2567 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 34.44 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 34.13 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (13 ธ.ค. 67) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 16-20 ธ.ค. 2567 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 4,231.8 ล้านบาท แต่มีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 8,263.5 ล้านบาท (แบ่งเป็น ซื้อสุทธิพันธบัตร 14,627.2 ล้านบาท หักด้วยตราสารหนี้หมดอายุ 6,363.7 ล้านบาท)

· สัปดาห์ระหว่างวันที่ 23-27 ธ.ค. ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 34.20-34.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการส่งออกไทยเดือนพ.ย. สัญญาณเงินทุนต่างชาติ ทิศทางเงินหยวนและราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2567 ของอังกฤษและข้อมูลกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ของจีน อนึ่ง ตลาดการเงินต่างประเทศจะปิดทำการในวันพุธ 25 ธ.ค. เนื่องในวันหยุดคริสต์มาส

สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

· ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมากกว่า 60 จุดภายในสัปดาห์เดียว และแตะจุดต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือนครึ่งในช่วงท้ายสัปดาห์

ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงเกือบตลอดสัปดาห์ท่ามกลางแรงขายหลักๆ จากกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติ โดยในช่วงต้นสัปดาห์นอกจากจะเผชิญแรงขายเพื่อปรับโพสิชั่นก่อนการประชุมกนง.และเฟดแล้ว ยังมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากแรงเทขายหุ้นกลุ่มค้าปลีก (จากประเด็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่แห่งหนึ่งเข้าลงทุนในบริษัทย่อยซึ่งไม่ใช่ธุรกิจหลัก) โดยแรงขายข้างต้นส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยร่วงหลุดแนว 1,400 จุดในเวลาต่อมา


 
ดัชนีหุ้นไทยขยับขึ้นได้ช่วงสั้นๆ กลางสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์รับอานิสงส์จากผลการประชุมกนง. ซึ่งมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม และแรงซื้อคืนหุ้นกลุ่มค้าปลีกหลังร่วงลงแรงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงอีกครั้งสอดคล้องกับทิศทางหุ้นต่างประเทศ หลังผลการประชุมเฟดซึ่งแม้เฟดจะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาด แต่ได้ส่งสัญญาณชะลอการปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้า ทั้งนี้ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงต่อเนื่องและแตะจุดต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือนครึ่งที่ระดับ 1,361.34 จุดในช่วงท้ายสัปดาห์

· ในวันศุกร์ที่ 20 ธ.ค. 2567 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,365.07 จุด ลดลง 4.65% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 50,657.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.66% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 4.60% มาปิดที่ระดับ 302.77 จุด

· สัปดาห์ถัดไป (23-27 ธ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,350 และ 1,340 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,375 และ 1,385 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนพ.ย. ของไทย การทำ Window Dressing ช่วงสิ้นปี รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 3/2567 ของอังกฤษ ยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ของญี่ปุ่น ตลอดจนกำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ของจีน

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 ธ.ค. 2567 เวลา : 19:47:48
23-12-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: 24 ธ.ค. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำบางพลี

2. ตลาดหุ้นปิด (20 ธ.ค.67) ลบ 12.46 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,365.07 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (20 ธ.ค.67) ลบ 13.48 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.05 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,580 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,615 เหรียญ

5. ทั่วไทยอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย "ยอดดอย" หนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5 องศา มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง "ยอดภู" 6 องศา

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (19 ธ.ค.67) บวก 15.37 จุด ตลาดจับตาดัชนี PCE สหรัฐวันนี้

7. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (19 ธ.ค.67) ร่วง 45.20 เหรียญ หลังเฟดส่งสัญญาณชะลอลดดอกเบี้ย

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (20 ธ.ค.67) ลบ 0.50 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,375.83 จุด

9. ทองเปิดตลาดวันนี้ (20 ธ.ค. 67) ปรับลดลง 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 43,150 บาท

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-34.75 บาท/ดอลลาร์

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (20 ธ.ค.67) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 34.59 บาทต่อดอลลาร์

12. ตลาดหุ้นปิด (19 ธ.ค.67) ลบ 21.42 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,377.53 จุด

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 ธ.ค.67) ลบ 6.55 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,392.40 จุด

14. MTS Gold คาดว่าวันนี้ราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,590 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,640 เหรียญ

15. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (19 ธ.ค.67) อ่อนค่าลงหนัก ที่ระดับ 34.58 บาทต่อดอลลาร์

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 23, 2024, 9:32 am