 RSI ก_ค_ 67.jpg)
“ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกรกฎาคม 2567 สะท้อนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจใน 6 เดือนข้างหน้าที่ยังขยายตัวได้ แต่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ในช่วงปลายปีคาดว่าจะมีแรงส่งเพิ่มขึ้นจากภาคบริการในช่วงฤดูท่องเที่ยว ทั้งนี้ ผู้ประกอบการบางส่วนยังมีความกังวลต่อความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ และความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน”
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง
เปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกรกฎาคม 2567 จากการประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดจากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคพบว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกรกฎาคม 2567 สะท้อนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจใน 6 เดือนข้างหน้าที่ยังขยายตัวได้ แต่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ในช่วงปลายปีคาดว่า จะมีแรงส่งเพิ่มขึ้นจากภาคบริการในช่วงฤดูท่องเที่ยว ทั้งนี้ ผู้ประกอบการบางส่วนยังมีความกังวลต่อความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ และความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน" โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกอยู่ที่ระดับ 79.2 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีโดยเฉพาะภาคบริการ เนื่องจากจะเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี ประกอบกับการจัดกิจกรรมและมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่มีอย่างต่อเนื่องของทั้งภาครัฐและเอกชนซึ่งจะช่วยให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น และความเชื่อมั่นในภาคการลงทุนที่ยังอยู่ในระดับสูง สอดคล้องกับทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่มีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ทางบก ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการแข่งขันของภูมิภาค และส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ยังอยู่ในระดับสูงเช่นกันที่ระดับ 81.6 สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนืออยู่ที่ระดับ 76.4 สะท้อนความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีโดยเฉพาะในภาคบริการ โดยคาดว่า จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นในช่วงปลายปี ซึ่งมีวันหยุดยาวและเป็นฤดูการท่องเที่ยว อีกทั้งภาครัฐและเอกชนยังมีแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ สำหรับความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรมสะท้อนได้จากข้อมูลสถิติในภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อาทิ จำนวนโรงงานอุตสาหกรรม จำนวนทุนจดทะเบียนของอุตสาหกรรม ปริมาณการใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม และภาษีมูลค่าเพิ่มในหมวดอุตสาหกรรม ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ที่ระดับ 73.6 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีจากความเชื่อมั่นในภาคบริการ โดยเฉพาะในช่วงปลายปี จากการจัดกิจกรรมสนับสนุนการท่องเที่ยวที่มีต่อเนื่องและเป็นช่วงฤดูการท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนในพื้นที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรมได้รับปัจจัยสนับสนุนจากปริมาณความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมของภาครัฐ ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้อยู่ที่ระดับ 71.4 สะท้อนความเชื่อมั่นในภาคบริการซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งในเมืองหลักและเมืองรอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยและมาเลเซีย ตลอดจนการใช้จ่ายในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ภาคการลงทุนมีแรงหนุนจากอุปสงค์ความต้องการสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลางอยู่ที่ระดับ 70.2 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีโดยมีปัจจัยบวกจากภาคเกษตรกรรมและภาคบริการ ตามแนวโน้มความต้องการสินค้าเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในการดูแลรักษาเสถียรภาพราคาผลผลิตเกษตรและปรับลดราคาปัจจัยการผลิต รวมถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวและส่งเสริมการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ยังควรติดตามสถานการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ในระยะถัดไป ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตกอยู่ที่ระดับ 65.6 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ปรับตัวได้ดี โดยเฉพาะในภาคเกษตรกรรมและการลงทุน โดยคาดว่า ความต้องการสินค้าเกษตรจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันภาครัฐจะมีนโยบายสนับสนุนภาคเกษตรอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคตจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการ ทั้งนี้ ยังต้องติดตามสภาพอากาศที่แปรปรวน สถานการณ์เศรษฐกิจไทย และความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน และสำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑลอยู่ที่ระดับ 64.8 สะท้อนความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีจากความเชื่อมั่นในภาคบริการและภาคอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการบางส่วนยังมีความกังวลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอลง
ข่าวเด่น